ศูนย์วิจัยระบบทรัพยากรเกษตร

ศูนย์วิจัยระบบทรัพยากรเกษตร (ศวทก.) หรือเดิมชื่อ ศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร (ศวพก.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะ รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2511 โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าของโครงการ และคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้ดำเนินการ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2512 คณะรัฐมนตรีได้ มีมติให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเจ้าของโครงการแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ศวทก. มีการดำเนินงานแบบสหสาขาวิชาโดยความร่วมมือของบุคลากรของศูนย์ร่วมกับคณาจารย์จากภาควิชาต่าง ๆ ในคณะเกษตรศาสตร์ และใช้แนวทางเชิงระบบในการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการเกษตร พัฒนาองค์ ความรู้และวิธีการวิเคราะห์ปัญหา การเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีหน่วยวิจัยหลัก 3 หน่วยได้แก่ หน่วยวิจัยระบบเกษตรยั่งยืน หน่วยวิจัยระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางเกษตร และหน่วยวิจัยธุรกิจเกษตรและการจัดการ นอกจากนี้ยังร่วมกันจัดหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาชาวิชาเกษตรศาสตร์เชิงระบบ (Agricultural Systems) ขึ้นในปี พ.ศ. 2527 และต่อมาเปลี่ยนเป็นหลักสูตรการจัดการระบบเกษตรนานาชาติ (Agricultural Systems Management) เพื่อสอนนักศึกษาไทย และนักศึกษาต่างชาติ ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการวิชาการ ศูนย์วิจัยได้ให้ คำปรึกษาและจัดฝึกอบรมในเรื่องที่เชี่ยวชาญแก่นักวิชาการ นักพัฒนา นักส่งเสริม และเกษตรกรทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันวิจัยและองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ

วิสัยทัศน์

เป็นผู้นำภูมิภาคด้านการวิจัยเกษตรศาสตร์เชิงระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรเกษตรสู่ความมั่นคง และยั่งยืนในการดำรงชีพชุมชนและสิ่งแวดล้อม

พันธกิจ

  1. วิจัยเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและเสนอแนะการจัดการทรัพยากรเกษตร
  2. บริการทางวิชาการและเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
  3. สนับสนุนการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษาสาขาวิชาการจัดการระบบเกษตร

แนวทางการพัฒนา

ด้านการเรียนการสอน

  1. การรับนักศึกษาให้มีความสอดคล้องกับงานวิจัย
  2. สร้างโครงการเชิญผู้มีประสบการณ์ (ใน/นอกประเทศ) มาร่วมให้ความรู้การในการเรียนสอน
  3. ปรับปรุงหลักสูตรให้น่าสนใจรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน
  4. หาแนวทางจัดการทรัพยากรร่วมกับหลักสูตรอื่น
  5. สร้างหลักสูตรฯ ให้มีสอดคล้องกับงานวิจัย
  6. หลักสูตรเชิงรุกให้มากขึ้น โดยให้มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
  7. ปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย/สอดคล้องกับปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยเพิ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภายนอก ช่วยปรับปรุงหลักสูตร
  8. แสวงหาทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาคนไทย
  9. เตรียมองค์กรและกระบวนการทำงานเพื่อรองรับการทำงานกับต่างประเทศ

ด้านการวิจัย

  1. สร้างทีมงานวิจัย และกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดในด้านงานวิจัยเชิงระบบเพื่อขอทุนวิจัย
  2. สร้างโครงการเชิญผู้มีประสบการณ์ (ใน/นอกประเทศ) มาร่วมงานวิจัยและการเรียนการสอน
  3. ขยายเครือข่ายวิจัยและแสวงหาแหล่งทุน
  4. ส่งเสริมให้อาจารย์ นักวิชาการ มีความเป็นผู้นำทางวิชาการด้าน “ระบบเกษตร” อย่างเป็นรูปธรรม
  5. มีแผนการจัดการให้สอดคล้องกับการย้ายสถานีท่ามกลางทรัพยากรบุคคลที่ลดลง
  6. มีกระบวนการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่โดยใช้ระบบ mentor
  7. มีส่วนร่วมในเครือข่ายงานวิจัยต่างๆ เพื่อหาโอกาสขอรับการสนับสนุนทุนวิจัย
  8. ทำงานวิจัยร่วมกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อเพิ่มการตีพิมพ์ระดับชาติและนานาชาติ
  9. ส่งเสริมสนับสนุนให้นักวิจัยเข้าร่วมในเครือข่ายวิชาการระดับชาติและนานาชาติเพื่อหาทุนสนับสนุนงานวิจัยและผลิตผลงานตีพิมพ์
  10. สร้างโครงการเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด ความรู้
  11. ปรับให้ไปในทางเดียวกัน และสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของศูนย์ฯ และสร้างกลุ่มวิจัยเพื่อพัฒนาโครงการวิจัย

ด้านการบริการวิชาการ

  1. เชื่อมโยงงานวิจัยของคณาจารย์และนักศึกษากับการบริการวิชาการของสถานี
  2. พัฒนาสถานีวิจัยให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของนักศึกษา/กลุ่มเกษตรกร/หน่วยงานราชการ
  3. ประชาสัมพันธ์การย้ายสถานีให้กับชุมชนและเครือข่ายผู้รับบริการ
  4. จัดหาสถานที่จัดกิจกรรมบริการวิชาการชั่วคราวในระหว่างดำเนินการย้ายสถานี
  5. พัฒนาระบบสนับสนุนและวางแผนการให้บริการวิชาการ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
  6. ให้มีการประเมินผลการบริการวิชาการอย่างสมบูรณ์และเป็นระบบ